Book Review : The Why Cafe’

Pui Sasakorn
1 min readFeb 20, 2021

--

The Why Cafe ดึงความสนใจเราได้จากคำโปรยปกหลัง ทำให้เราพรีออเดอร์เรื่องนี้ตั้งแต่หนังสือยังไม่ออก และพอหนังสือส่งมาถึงเมื่อวาน เราก็อ่านจนจบทันทีในวันรุ่งขึ้น

“เรื่องของ จอห์น ชายหนุ่มผู้เหน็ดเหนื่อยกับชีวิต เขาจึงลาพักร้อนจากการงานอันเคร่งเครียด โดยตั้งใจว่าจะหลบไปพักผ่อนริมทะเลเพื่อชาร์จพลังใจสักพัก ระหว่างขับรถเขาใช้เส้นทางที่ไม่คุ้นเคยจนหลงทางในที่สุด แต่แล้วเขาก็เจอร้านอาหารเล็กๆ ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว โดยมีป้ายเขียนว่า The Why Are You Here Cafe เขาจึงแวะเข้าไปโดยหวังว่าจะได้พักและตั้งหลักหาทางใหม่ เมื่อเข้ามาในร้าน บริกรสาวหยิบเมนูมาให้เขา แต่ด้านหลังเมนูกลับไม่มีรายการอาหาร มีเพียงคำถาม 3 ข้อที่ชวนประหลาดว่า

  • เหตุใดคุณจึงมาที่นี่
  • คุณกลัวตายไหม
  • คุณพึงพอใจกับชีวิตหรือยัง

3 คำถามนี้เองที่จะทำให้จอห์นรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เขาต้องการจริงๆ ซึ่งในตัวของเรานั้นล้วนมีคำถามเดียวกันกับที่จอห์นกำลังเผชิญอยู่ ร่วมตั้งคำถามและหยุดคิดเพื่อทบทวนว่า เรากำลังไปสู่ที่ใดในการเดินทางไกลของชีวิตครั้งนี้ใน The Why Cafe คาเฟ่สำหรับคนหลงทาง”

“เหตุใดคุณจึงมาที่นี่” หรือ “เหตุใดฉันจึงมาที่นี่” แทบไม่ต่างจาก อิคิไก หรือความหมายในการมีชีวิตอยู่ในแบบญี่ปุ่นเท่าไหร่นัก แต่วิธีการเล่าเรื่องในแบบตะวันตก ก็จะทำให้เราเห็นภาพบางภาพต่างออกไปนิดหน่อย ในเชิงความละเมียดละไมแล้วอาจจะมีความแตกต่างกันบ้าง แต่โดยแก่นแท้แล้วเราคิดว่านี่คือสิ่งเดียวกันที่หนังสือเล่มนี้พยายามสื่อให้เราตั้งคำถามกับตัวเอง

  • ถ้าคุณตอบคำถามนี้ได้ชัดเจนว่า เหตุใดฉันจึงมาที่นี่ หรือ ฉันมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร แปลว่าคุณเจอเป้าหมายในการมีชีวิตแล้ว และเมื่อไหร่ที่คุณเจอ คุณจะไม่อาจเพิกเฉยต่อมันได้อีกต่อไป
  • คุณจะทำอะไรกับมันก็ได้ เพราะคุณเป็นคนค้นพบมัน มันเป็นสิทธิ์ของคุณ เป็นชีวิตของคุณที่จะเลือกทำอะไรกับเป้าหมายนั้นก็ได้ แต่คนที่ค้นพบมันมักจะทำทุกอย่างในชีวิตเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น
  • ส่วนคนที่ยังไม่ค้นพบมัน ก็มักจะใช้วันเวลาให้ผ่านไปโดยทำตามคนส่วนใหญ่ หรือแนวคิดที่ถูกทำให้เชื่อจากคำโฆษณา เช่น ใช้สิ่งนั้นแล้วจะดี ทำสิ่งนี้แล้วจะมีความสุข
  • ถ้าคุณไม่เป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งที่ตัวเองทำ คุณจะสูญเสียพลังงานไปกับสิ่งอื่นๆ มากมาย (ซึ่งสิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้คุณบรรลุเป้าหมาย) และอาจมีสักวันที่คุณมีโอกาสได้ทำสิ่งที่อยากทำ แต่คุณก็กลับไม่เหลือกำลังหรือเวลาให้สิ่งนั้นแล้ว
  • ทำไมเราต้องใช้เวลามากมายไปกับการเตรียมตัวสำหรับช่วงเวลาที่เราจะได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำ แทนที่จะลงมือทำตั้งแต่ตอนนี้ (เช่น การตั้งเป้าว่าจะทำสิ่งนี้ตอนที่มีเวลากว่านี้ หรือตอนเกษียณแล้ว)
  • พยายามหาเวลาให้ตัวเองมากขึ้น เลิกปรนเปรอตัวเองด้วยสิ่งของ เพื่อชดเชยการทำงานหนัก แต่ปรนเปรอตัวเองด้วยการทำสิ่งที่เราอยากทำแทน เช่น ทำบางสิ่งบางอย่างที่อยากทำจริงๆ ให้ได้วันละ 1 ชม.
  • คนเรากลัวตายเพราะกลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้ทำสิ่งที่ต้องการในชีวิต แต่ถ้าใครสักคนรู้เป้าหมายในชีวิตแล้ว ลงมือทำมันไปแล้ว หรือกำลังทำมันอยู่ทุกวัน คนคนนั้นก็จะกลัวตายไปทำไม (นั่นจึงเป็นที่มาของคำถามข้อที่สอง)
  • เมื่อใครสักคนหลงใหลในสิ่งที่ตัวเองทำ คนคนนั้นมักจะมีความสุข เก่งกาจในเรื่องนั้นๆ และดูเหมือนแทบจะไม่เคยเหนื่อย หรือต้องหาเวลาไปชาร์จแบตฯ เลย
  • หากไม่มีความต้องการจะ หลีกหนี หรือ ผ่อนคลาย เวลาที่เราได้ทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำอยู่เสมอ ก็แปลว่าเราน่าจะมีสิ่งให้หลีกหนีน้อยลง หรือไม่เครียดจนต้องคอยหาทางผ่อนคลายด้วย ซึ่งนั่นอาจทำให้นิยามของคำว่า มีเงินเยอะๆ ของเราเปลี่ยนไปก็ได้
  • เมื่อใครบางคนมีความอยากทำอะไรบางอย่างอย่างแรงกล้าจนคนรอบข้างรู้สึกได้ จะมีคนบางคนที่อยากยื่นมือเข้าช่วยให้เราทำบางอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้นจนได้
  • วิธีการหาคำตอบของคำถาม เหตุใดฉันจึงมาที่นี่ ของแต่ละคนอาจมีวิธีการแตกต่างกันไป ไม่มีวิธีการไหนที่ถูกต้อง มีแต่วิธีการที่เป็นของเราเท่านั้น
  • ชีวิตเป็นเรื่องมหัศจรรย์ หากเพียงแต่เราตระหนักว่าเราเป็นผู้แต่งเรื่องนั้นเอง และเราสามารถกำหนดให้มันเป็นไปในทางใดก็ได้

ส่วนตัวแล้วเราเชื่อว่าสารของหนังสือเล่มนี้จะกระทบใจคนต่างๆ รูปแบบกันไป ขึ้นอยู่กับว่าเรากำลังเผชิญอะไรในชีวิต หรืออยู่ใน stage ไหน เรากำลังคิดถึงอะไร หรือเรื่องอะไรกำลังเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตเรา

สำหรับเราเอง เราเคยถามทั้งสามคำถามนี้อยู่บ้างในบางเวลา แต่ที่ผ่านมามันขาดๆ หายๆ บางครั้งใช่ บางครั้งก็ไม่ แต่อย่างน้อยๆ เราก็ตอบสนองชีวิตตัวเองไปตามคำตอบที่ได้ในแต่ละช่วงเวลาที่ต่างกันไป และทุกวันนี้ เราคิดว่า… เราพึงพอใจในชีวิตตัวเองไม่น้อยเลยล่ะ

หวังว่าทุกคนจะพบ The Why Cafe ของตัวเอง ที่ถนนเส้นไหนสักเส้นในชีวิตนะคะ

--

--

Pui Sasakorn
Pui Sasakorn

Written by Pui Sasakorn

นักฝัน นักอ่าน นักเดินทาง นักทำหนังสือ ที่ยังคงมีความสุขกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ

No responses yet